ศิลปิน

นพพร เขียนถึง พิเศษ สังข์สุวรรณหรือพี่ตาร์ ที่หลายๆคนในวงการโบราณคดีรู้จักในฐานะพี่ผู้อาวุโสและศิลปินมากฝีมือ วันหลังผมจะเล่าเรื่องราวของเขาให้ฟัง

 โปรดสดับฟังเสียงสำเนียงเพลงบทนี้เถิด

เพราะข้าพเจ้าได้พร่ำเพียรกลั่นกรองความสดชื่นจากดวงใจภายใต้ร่างกายอันร้าวราน

ด้วยหวังขับกล่อมขับขานให้พวกท่านรื่นเริงและหลงลืมความปวดร้าวจากวันคืนที่แสนเศร้า

ฟังสิฟังสิท่านถ้อยคำเหล่านั้นท่วงทำนองเหล่านั้น

ต่างถูกถักทอขึ้นจากบุคคลซึ่งถูกหลงลืมไว้เบื้องหลัง

อย่าอย่าเลยอย่าคิดเวทนาข้าพเจ้าแม้แต้เพียงนิด

เพราะความเปรมปรีดิ์ของพวกท่านต่างหากที่ทำให้ข้าพเจ้ายังพอมีแรงขยับเขยื้อนเคลื่อนกายเยี่ยงสามัญชน

สุขเถิดท่านทั้งหลายเคลื่อนกายให้สุขสันต์อย่างที่ท่านมิเคยได้รับสุขนั้นมาก่อน

เพราะข้าพเจ้าจะบรรเลงเพลงบทนี้ต่อไป

โอ้กาลเวลาล่วงเลยไป

ขออภัยเถิดท่านทั้งหลาย หากขณะนี้ร่างกายของข้าพเจ้ามันร้าวรานเกินกว่าที่จะสร้างสรรค์ถ้อยทำนองอันสุขสันต์ไว้เป็นของขวัญแด่ดวงจิต

น้ำเสียงของข้าพเจ้ามันแหบพร่าเกินกว่าจะเอื้อนเอ่ยวจีอันไพเราะ

แขนขาของข้าพเจ้ามันอ่อนล้าและเหน็บชาเกินกว่าจะคว้าเครื่องดนตรีมาดีดสีให้พวกท่านรื่นรมย์

ขออภัยเถิดท่านทั้งหลาย

ด้วยลมหายใจของข้าพเจ้าก็เริ่มเหนื่อยล้าเกินทานทน

อีกไม่นานหรอกอีกไม่นานท่านก็คงลืมบทเพลงที่ข้าพเจ้าเคยขับขานกล่อมเกลา

อีกไม่นานหรอก..อีกไม่นานจะมีผู้มาขับขานบทเพลงบทใหม่ให้ท่านได้หฤหรรษ์กันต่อไป

อีกไม่นานหรอกอีกไม่นานราตรีกาลจะพัดพาร่างกายและดวงวิญญาณของข้าพเจ้าให้แตกสลายกลายเป็นเพียงผงธุลี และเสียงดนตรีก็จะกลายเป็นเพียงความทรงจำ

อีกไม่นานหรอกอีกไม่นาน

แด่พี่ต้าร์ พิเศษสังข์สุวรรณ ศิลปินผู้ถูกหลงลืม

นพพร

16 ..50