แด่เจ้านกน้อยที่จากไป

เมื่อ 2 คืนก่อน หลังจากที่ผมกลับจากการชื่นชมโลกของกลางคืนตามกติ เมื่อมาถึงห้องพักจึงล้างหน้าด้วยความอ่อนเพลีย พลันสายตามองไปเห็นตัวอะไรมันกลิ้งๆ ขยับไปมาที่อ่างล้างหน้า(มันมืดขี้เกียจเปิดไฟ)

ผมถ่างตาจ้องดูให้ชัดๆจึงเห็นเป็นลูกนกตัวหนึ่งดิ้นไปมาบนน้ำเปียกๆและเปลือกไข่ที่แตกออก มันจะตายรึป่าววะ บาปแล้วกู ผมนึกในใจ

ตั้งสติได้รีบนำเจ้าลูกนกน้อยมาเช็ดน้ำออกแล้ววางบนผ้า ตัวมันเล็กมาก เล็กกว่าปลายนิ้วก้อยเสียอีก ตายังปิดสนิท หัวโตๆ ผิวย่นๆ บอบบางและแดงอมชมพู ยังไม่มีขนขึ้น ด้วยความไม่เคยเลี้ยงนกมาก่อนจึงนำผ้ามาคลุมอีกชั้นเผื่อว่ามันหนาว เห็นเจ้าตัวน้อยยังกลิ้งๆต่อได้เลยเบาใจไปนอน

ตื่นเช้ามาไปดูอีกครั้ง…โล่งอก เจ้านกน้อยยังมีชีวิต ผมเลยรีบออกไปหาข้าวให้มันกิน เคยดูในสารคดีแม่นกจะเอาปากแหย่หย่อนอาหารลงไปในคอ ผมเลยไปเอาไม้เล็กๆมาเขี่ยข้าวผสมน้ำให้มันนุ่มหย่อนลงคอมันบ้าง จากนั้นก็หยอดน้ำตาม ดูมันอิ่มแล้ว ผมจึงเลี่ยงไปอ่านหนังสือ ส่วนเจ้าตัวเล็กก็หลับสบายๆต่อ

สายๆผมให้อาหารมันอีกครั้งก่อนออกจากบ้าน ตอนแรกก็กังวลว่ามันจะตายหรือไม่ แต่คิดว่าเวลาปกติตอนแม่นกออกไปหาอาหารก็ทิ้งลูกไว้ ผมก็เลยเลียนแบบทิ้งไปบ้าง สุดท้ายผมเมื่อกลับมาตอนดึก จึงลองแตะเบาๆมันยังดิ้นได้และดูแข็งแรง เลยให้อาหารอีกรอบ

อย่างไรก็ตาม อากาศช่วงนี้ออกจะหนาว ด้วยความที่คิดว่าคืนก่อนมันรอดผ่านมาได้ ผมก็เลยไม่คิดอะไร คลุมผ้าให้ตามปกติเช่นเดิม ทว่าเมื่อเช้านี้ ตัวมันขาวซีด ผมลองแตะดู ปกติมันจะดิ้นตอบสนองไปมา แต่คราวนี้มันไม่กระดิกสักนิด

เจ้านกน้อยจากผมไปแล้ว….อาจด้วยผมดูเบาความหนาวเกินไปทั้งที่ผมก็เองรู้สึกหนาวในค่ำคืนนั้น

ใต้ต้นไม้ต้นหนึ่งผมลงมือฝังมันลงไป มันมีชีวิตเพียง 2 วัน ก่อนนี้ผมอยากเห็นมันเติบโตและโบยบินสู่โลกกว้าง หลังจากนี้หวังว่าวิญญาณเจ้านกน้อยจะโบยบินไปสู่แดนสุคติภพเถิด   

 ขุนพลน้อย

5 ก.พ. 50